งานฝึกอบรม

15ปีกว่า กับความเชี่ยวชาญในวิถีด้านลีน ทั้งองค์ความรู้ ทักษะการปฏิบัติงานจริง การสอนให้กับคนในองค์กร จึงทำให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราสามารถนำประสบการณ์ตรง มาสอนให้ความรู้ ความเข้าใจ ให้กับบริษัทของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล

▣ การพัฒนาบุคลากรให้มีกระบวนการคิด วิเคราะห์ ในการแก้ปัญหา
▣ การนำเอาเครื่องมือต่างๆของลีน ไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง
▣ ความสามารถในการลดต้นทุน / เพิ่มยอดขาย และสร้างผลกำไรมากขึ้น
หลักสูตรต่างๆ ( Inhouse-Training Course )
TM = ระดับผู้บริหาร | MGR = ระดับผู้จัดการ | ENG = วิศวกร | LEADER = ระดับหัวหน้างาน | OPT = ระดับปฎิบัติการ/ช่างผู้ชำนาญการ
หลักสูตร แนะนำสำหรับ

TM MM

MGR ENG LEADER
OPT
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1) หลักสูตรการบริหารองค์กร
1. การบริหารเชิงนโยบาย ( Policy Mgt/Action Plan ) – สามารถมอบหมายเป้าหมายองค์กร
ได้ถูกต้องและชัดเจนทั่วถึง
2. การบริหารต้นทุนและงบประมาณ ( Cost and Bugget Mgt ) – กำหนดต้นทุนได้ถูกต้องแม่นยำ
– บริหารงบประมาณเพื่อควบคุมต้นทุน
– ติดตามต้นทุนได้อย่างต่อเนื่อง
3. การสร้างและติดตามงานด้วยตัวชี้วัด ( KPI Setting and Deployment ) – การสร้างตัวชี้วัดที่มีประสิทธิผล
– นำตัวชี้วัดไปใช้ที่หน้างานได้อย่างเห็นผล
2) หลักสูตรการบริหารด้วยลีน เพื่อการลดต้นทุนการผลิต
1. แนวคิดและหลักการของลีนเพื่อการบริหารองค์กร – มีวิถีการคิดแบบลีน เพื่อการลดต้นทุน ในทุกมิติ
– เข้าใจความเชื่อมโยง เพื่อใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผล
2. มาตรฐานเวลาและลำดับงาน ( Standardized work ) – สร้างมาตรฐานงานเพื่อต่อยอดให้เกิดการ บริหารคนให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
3. การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ( Kaizen ) – เพื่อสร้างและพัฒนาพนักงานให้เกิดแนวคิด/ กระบวนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
4. การวางแผนแบบปรับเรียบ ( Heijunka Planning ) – ทำให้สินค้าคงคลังมีปริมาณที่ต่ำที่สุด แต่ยังสามารถ ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทันเวลา/ตรงเวลา
5. ระบบคัมบัง ( Kanban system ) – ลดการสื่อสารที่ซับซ้อนในการสั่งผลิต/เรียก ชิ้นส่วนเพื่อการผลิต
6. การผลิตแบบทีละชิ้น ( One piece flow ) – สามารถสร้างสายการผลิตให้ผลิตได้ครั้งละน้อยๆ เพื่อ ลดความเสี่ยงที่ส่งมอยสินค้าไม่ได้
7. การลดของเสียเชิงป้องกัน ( Jidoka ) – สามารถสร้างเครื่องมือเพื่อการป้องกันการเกิดปัญหา คุณภาพรวมไปถึงดักจับมิให้หลุดไปถึงลูกค้า
8. การประกันคุณภาพเชิงป้องกัน ( QA network/matrix ) – เพื่อสร้างระบบการประเมินคุณภาพของกระบวนการ
– เป็นเครื่องมือในการพัฒนาระดับคุณภาพการผลิต
9. การออกแบบกระบวนการด้วย material and information flow chart – มึความเข้าใจในโครงสร้างการไหลของสินค้าและ ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวโยงต่อการผลิต
– เป็นเครื่องมือในการสร้าง supply chain ให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น
10. การควบคุมและบริหารคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง – ลดปริมาณการเก็บสินค้าคงคลัง ให้ต่ำที่สุด
– บริหารพื้นที่จัดเก็บให้มีประสิทธิภาพ
11. การควบคุมต้นทุนการผลิต ( Cost/Unit ) – สามารถเข้าใจโครงสร้างของต้นทุน
– เป็นเครื่องมือในการมองเห็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง และ นำไปปรับปรุงการผลิต เพื่อลดต้นทุนเหล่านั้นได้
12. การบริหารแบบมองเห็นได้ ( Visual control management ) – เพื่อสร้างระบบการมองเห็นได้ง่าย รวดเร็ว และทำให้ เกิดการแก้ปัญหา หรือปรับปรุง
3) หลักสูตรการเพิ่มผลผลิต
1. Problem solving step for acheivement – ได้วิธีการคิดเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อการแก้ปัญหา
2. 7 muda and 7 tools for success – ความรู้และทักษะการใช้เครื่องมือในการแก้ปัญหา
3. การบริหารงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน – ทักษะในการใช้เครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยทำให้เกิดการ ลดต้นทุน
4. TPM เพื่อเพิ่มผลผลิตของเครื่องจักร – ช่วยลดการหยุดของเครื่องจักรผ่านระบบ TPM
5. Risk management / การบริหารความเสี่ยง – มีกระบวนการจัดการเมื่อเกิดเหตุผิดวิสัย เพื่อลด ความสูญเสียต่อกระบวนการผลิต
6. 5ส เพื่อการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน – สร้างวินัยและพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
– มีเครื่องมือในการประเมินผล 5ส
4) หลักสูตรการพัฒนาบุคลากร
1. การสร้างความเป็นผู้นำ – สร้างทักษะในการมอบหมายงานและสร้างความสัมพันธ์ ที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา
2. การมอบหมายงานตามสายบังคับบัญชา – มีความรู้ ความเข้าใจในการกำหนดบทบาทและหน้าที่ ที่ชัดเจน เพื่อการมอบหมายงานได้ถูกต้อง
3. การสร้างจิตสำนึกด้านคุณภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน – สร้างจิตสำนึกในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และทำงาน ให้เต็มศักยภาพ
4. การบริหารเวลาและติดตามงานอย่างมีประสิทธิภาพ – การจัดสรรเวลาผ่านเครื่องมือที่ช่วยบริหารเวลา และ การสร้างเหล่านั้นที่มีประสิทธิภาพต่อองค์กร
aibies-วงกลม
การสอนที่มุ่งเน้นให้ความเข้าใจด้วย case study และ การทำ work shop เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผู้เข้าเรียนสามารถนำไปใช้งานได้จริง

 

3 ชม.
สอน ให้มีความรู้ในหลักการ

 

2 ชม.
Work shop เพื่อฝึกการทำและลงมือปฏิบัติ

 

1 ชม.
Case study ในการเปิดมุมมองใหม่ๆหรือตัวอย่างจากบริษัทอื่นๆ เพื่อนำไปปรับ ประยุกต์ใช้งาน
ลูกค้าที่ใช้บริการของเรา เช่น